ประโยค Part Of Speech | ขอตัวอย่างประโยคที่มี Parts Of Speech ครบ 8 อย่างหน่อยค่ะ - Pantip

Noun คำนาม 2. Pronoun คำสรรพนาม 3. Verb คำกริยา 4. Adjective คำคุณศัพท์ 5. Adverb คำกริยาวิเศษณ์ 6. Preposition คำบุพบท 7. Conjunction คำสันธาน 8. Interjection คำอุทาน

Technology

ตัวอย่าง ประโยค Part of speech ภาษาอังกฤษ - YouTube

กระทู้คำถาม คือว่าจะขอตัวอย่างประโยคที่มี parts of speech ครบ 8 อย่าง สักประโยค สองประโยคหน่อยค่ะ please!!! 0 แสดงความคิดเห็น คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

ประโยค part of speech in tagalog

In french

  • ประโยค part of speech words
  • หน้าที่ ต่อ ม ไร้ ท่อ
  • ประโยค part of speech technology
  • ประโยค part of speech clip art
  • การ ประดิษฐ์ จาก หลอด e27
  • ประโยค part of speech worksheets
  • ประโยค part of speech examples
  • ระบบน้ําดี

สมชาย สมายเออะสฺ สมชายยิ้ม Somchai = คำนาม (Noun) smiles. = คำกริยา (Verb) She smiles ชี สมายเออะสฺ หล่อนยิ้ม She = คำสรรพนาม (Pronoun) smiles. = คำกริยา (Verb) Jenny is a beautiful woman. เจนนี่ อิส อะ บิวตี้ฟูล วูแหม่น เจนนี่เป็นผู้หญิงที่สวย Jenny = คำนาม (Noun) is = คำกริยา (Verb) beautiful = คำคุณศัพท์ (Adjective) woman คำนาม (Noun) Tom runs quickly to school. ทอม รันสฺ ควิกลิ ทอม วิ่ง อย่างรวดเร็ว Tom = คำนาม (Noun) คำนามทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค runs = คำกริยา (Verb) ทำหน้าที่แสดงอาการ ว่า กำลังทำอะไร ก็คือ กำลังวิ่ง quickly. = คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ทำหน้าที่ขยายคำกริยา ว่า ทำอาการนั้นอย่างไร เช่น วิ่ง วิ่งแบบไหน ก็คือ วิ่งอย่างเร็ว to = คำบุพบท (Preposition) ทำหน้าที่เชื่อมคำกริยากับคำนาม run กับ school school = คำนาม (Noun) Tom is smart and rich. Oh my god. ทอม อิส สมาร์ท แอนด์ ริช Tom= คำนาม (Noun) is = คำกริยา (Verb) smart = คำคุณศัพท์ (Adjective) and = คำสันธาน (Conjunction) ทำหน้าที่เชื่อมคำคุณศัพท์กับคุณศัพท์ smart และ rich rich = คำคุณศัพท์ (Adjective) Oh my god =คำอุทาน (Interjection) ประโยคในภาษาอังกฤษจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น แต่ว่าส่วนต่างๆ เช่น คำนาม สรรพนาม กริยา กริยา วิเศษณ์ คุณศัพท์ บุพบท สันธาน และอุทาน จะมียังรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่จะต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้รู้ว่าแต่คำจะต้องใช้ งานอย่างไร และต้องสามารถแยกแยกให้ออกว่า คำนั้นๆ เป็นคำประเภทใด ถ้าแยกแยะไม่ออก จะใช้งานไม่ถูกต้อง

Conjunction – คำสันธาน คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ (Words) กลุ่มคำ (Phases) หรือ ประโยค (Sentences) เข้าด้วยกัน เช่น and, or, but, although (แม้ว่า), when (เมื่อ), after 8. Interjection – คำอุทาน คือ คำที่ใช้เพื่อแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้พูดออกมา โดยมักจะใช้เครื่องหมายตกใจ! (Exclamation mark) เช่น Wow! (ว้าว), Great! (ดีเยี่ยม), Awesome! (สุดยอด)

ส่วนประกอบของประโยคในภาษาอังกฤษ

โครงสร้างของภาษาทั้งโลกนี้จะคล้ายกันก็คือ เกิดจากการนำคำต่างๆ มารวมกันให้เป็นประโยค แต่ในภาษาอังกฤษนั้น คำต่างๆ จะ แยกเป็นชนิดต่างๆ เป็นโครงสร้างของประโยคที่จะต้องทำความเข้าใจ แต่ละภาษาจะต้องมีโครงสร้างประโยคที่สมบูรณ์ ในภาษาอังกฤษนี้จะเรียกว่า Part of Speech โดยจะมีส่วนประกอบอยู่ 8 ส่วน ด้วยกัน ที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจ โครงสร้างประโยคหรือ Part of Speech ในภาษาอังกฤษ 1. คำนาม (Noun) เช่น Somchai, dog, pen... 2. คำสรรพนาม (Pronoun) เช่น He, She, they... 3. คำกริยา (Verb) เช่น run, eat, walk... 4. คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) เช่น quick, slowly, very... 5. คำคุณศัพท์ (Adjective) เช่น beautify, rich, smart... 6. คำบุพบท (Preposition) เช่น to, after, in, on... 7. คำสันธาน (Conjunction) เช่น and, but... 8. คำอุทาน (Interjection) เช่น Oh my god! คำอ่าน Noun นาว Pronoun โพรนาว Verb เวิร์บ Adverb แอ๊ดเวิร์บ Adjective แอ๊ดเจ็คทีฟ Preposition เพร็บโพซิชั่น Conjunction คอนจังชั่น Interjection อินเตอร์เจ็คชั่น โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษนั้นจะต้องประกอบด้วยโครงสร้างตามตัวอย่างข้างต้น แต่ไม่จำเป็นต้องครบทั้ง 8 ส่วน เพราะบาง ประโยคมีแค่คำนามและกริยา ก็เป็นประโยคที่สมบูรณ์แล้ว ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษแบบต่างๆ สมชายยิ้ม Somchai smiles.

Pronoun – คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้คำนามนั้นซ้ำเวลาพูดถึงอีกในประโยคอื่นๆ มีทั้งอยู่ในรูป Subject (ประธาน) และ Object (กรรม) Subject (ประธาน): I, She, He, We, They, You, It Object (กรรม): me, her, him, us, them 3. Verb – คำกริยา คือ การกระทำ หรือคำที่แสดงอาการทางกาย ทางใจ หรือบ่งบอกถึงทางสถาวะ การกระทำ: run (วิ่ง), smell(ดม), eat (กิน), drunk (ดื่ม) แสดงอาการทางใจ: feel (รู้สึก), think (คิด) สภาวะ: have (มี), exist (มีอยู่) 4. Adverb – คำวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ คำวิเศษณ์ เพื่ออธิบายข้อมูลเพิ่มเติม ในเชิงความถี่ เวลา สถานที่ หรือกริยาอาการต่างๆ Adverb of manner (คำวิเศษณ์ที่บอกในเรื่องการกระทำ): slowly (ช้าๆ), quickly (รวดเร็ว) Adverb of frequency (คำวิเศษณ์ที่บอกในเรื่องความถี่): everyday (ทุกๆวัน), often (บ่อยๆ), sometimes (บางเวลา) 5. Adjective – คำคุณศัพท์ คือ คำที่วางไว้หน้าคำนาม หรือสรรพนามเพื่อขยายความเหล่านั้นในเชิงลักษณะ คุณภาพ ปริมาณ เป็นต้น เช่น good (ดี), beautiful (สวย), young (หนุ่มสาว วัยรุ่น) 6. Preposition – คำบุพบท คือ คำที่ใช้เชื่อคำนาม สรรพนาม หรือวลีเข้าด้วยกัน เช่น in, inside, out, outside, above, under, on, to 7.

ในภาษาอังกฤษ คำ ถือเป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุด แบ่งออกได้เป็นหลายชนิด และคำหนึ่งคำในบางครั้งก็สามารถเป็นได้หลายชนิด ขึ้นอยู่กับการใช้งานและหน้าที่ของคำในประโยคนั้นๆ ชนิดของคำในภาษาอังกฤษแบ่งออกได้เป็น 8 ชนิดหลัก ดังนี้ 1. Noun - คำนาม คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ หรือความคิด ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ตัวอย่างคำนาม Jack, Bangkok, chair, cat, farmer, darkness ตัวอย่างประโยค Jack lives in Bangkok 2. Pronoun - คำสรรพนาม คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้แทนคำนาม (noun) เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำนามนั้นซ้ำๆ ถ้าหากมีการเอ่ยถึงคำนามไปแล้ว ตัวอย่างคำสรรพนาม I, you, we, they, he, she, it, me, my, mine, myself ตัวอย่างประโยค John passed his driving test. He felt so proud of himself 3. Adjective - คำคุณศัพท์ คำคุณศัพท์ คือ คำที่เอาใว้อธิบาย หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คำนาม (noun) หรือคำสรรพนาม (pronoun) ตัวอย่างคำคุณศัพท์ young, happy, small, hot, beautiful, normal, good ตัวอย่างประโยค He has a big and beautiful house 4. Verb - คำกริยา คำกริยา คือ คำที่แสดงการกระทำ หรือสภาวะความเป็นอยู่ (state of being) ตัวอย่างคำกริยา go, work, play, like, run, eat, is, are, was ตัวอย่างประโยค She works at McDonald - I am a doctor 5.

July 20, 2022